“สมาร์ตโฟน” วิวัฒนาการด้านการสื่อสารที่กลายเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน

โทรศัพท์มือถือที่เรียกว่า “สมาร์ตโฟน” กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำรงชีวิตสำหรับคนยุคใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยความสะดวกและทันสมัย สามารถทำได้แทบทุกสิ่งอย่างเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น การย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นกระทั่งเข้าสู่ช่วงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถูกยกย่องเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดคืออีกเรื่องที่อยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก และเชื่อว่าในอนาคต “Smartphone” จะยังไม่หยุดเดินหน้าอย่างแน่นอน

หาคำตอบกันให้ชัด สมาร์ตโฟน คืออะไร

สมาร์ตโฟน (Smartphone) คือ โทรศัพท์อัจฉริยะ (แปลตามศัพท์ของภาษาไทย) โทรศัพท์แบบไร้สายที่สามารถใช้งานได้มากกว่าโทรศัพท์มือถือทั่วไป รองรับอินเทอร์เน็ตทั้งแบบ 4G, 5G, Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสาร การนำทาง ฟังก์ชันน่าสนใจ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งเพื่อการเรียนรู้ การทำงาน ความบันเทิง ฯลฯ ทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเพิ่มคุณภาพให้เกิดผลลัพธ์น่าพึงพอใจมากกว่าแค่การพูดคุยผ่านสัญญาณโทรศัพท์ การส่งข้อความ และฟีเจอร์พื้นฐาน ปัจจุบันระบบปฏิบัติการที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ iOS และ Android

จุดเริ่มต้นของการพัฒนาสมาร์ตโฟน

หากย้อนกลับไปในยุคที่ “สมาร์ตโฟน” ถือกำเนิดขึ้นมีจุดเริ่มต้นพัฒนาจากการต่อยอดโทรศัพท์มือถือที่อยากมีความสามารถมากกว่าแค่การรับสาย โทรออก ส่งข้อความ และฟังก์ชันพื้นฐาน เดิมทีช่วงแรกของการพัฒนา Smartphone มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นบรรดาองค์กรโดยผู้พัฒนาพยายามเชื่อมต่อการทำงานของอุปกรณ์ PDA แบบสแตนดอโลนให้สามารถรองรับการทำงานของโทรศัพท์เซลลูลาร์ได้

แต่ปัญหาคือตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ แบตเตอรี่ใช้งานได้เพียงส้น ๆ เครือข่ายการทำงานแบบอนาล็อกช้า จากสิ่งเหล่านี้เองกลายเป็นแนวคิดให้นักพัฒนาพยายามต่อยอดเพื่อสร้างสิ่งแปลกใหม่บนโลกใบนี้ทั้งเรื่องการลดขนาดชิปเซต การใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ไปจนถึงการนำเอาสัญญาณเครือข่ายมือถือและสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้งานเพื่อให้ทุกอย่างลงตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปช่วงต้นทศวรรษ 1990 แฟรงค์ คาโนวา นักวิศวกรของบริษัท IBM ถือเป็นบุคคลสำคัญต่อการพัฒนาของสมาร์ตโฟนอย่างมาก เขามองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีชิปเซตที่มีขนาดเล็กเหมาะต่อการนำมาใช้เพื่อเก็บข้อมูลภายในอุปกรณ์ไร้สายที่สามารถพกพาไปไหนได้ง่าย ดังนั้นหากจะเอ่ยถึง สมาร์ตโฟนเครื่องแรกของโลกมันจึงเป็นตัวเครื่องต้นแบบที่ชื่อ “Angler” ซึ่งพัฒนาโดยตัวเขาเมื่อปี 1992 กระทั่งรุ่นปรับปรุงได้ถูกวางขายในตลาดเป็นครั้งแรกในปี 1994 โดย BellSouth บริษัทด้านโทรคมนาคมของสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ Simon Personal Communicator

ความพิเศษของสมาร์ตโฟนรุ่นแรกไม่ใช่แค่การโทรออก รับสาย ส่งข้อความ แต่ยังมีระบบหน้าจอแบบสัมผัส สามารถรับ-ส่งอีเมลได้ มีฟีเจอร์เพิ่มเติมให้ใช้งานสะดวกขึ้นทั้งปฏิทิน การนัดหมาย เครื่องคิดเลข นาฬิกาเวลาทั่วโลก สมุดบันทึก ไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ในอนาคตได้ถูกพัฒนาให้มีศักยภาพชั้นยอด อาทิ แผนที่ รายงานหุ้น ข่าวสาร เป็นต้น ก่อนที่คำว่า “Smartphone” จะถูกบัญญัติในปี 1997 โดย Ericsson หนึ่งในบริษัทด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่ออธิบายถึงกรอบความเข้าใจสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้

ก้าวเข้าสู่ยุคสมาร์ตโฟนครองเมืองในปัจจุบัน

ถ้าให้ลองนึกถึงสมาร์ตโฟนตั้งแต่ยุคอดีตและถือเป็นอีกขั้นของวิวัฒนาการจนทำให้สังคมยุคใหม่กลายเป็นยุคดิจิทัลแบบเต็มตัวปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของมือถืออย่าง I-Phone 3 จากค่าย Apple ไปจนถึง Blackberry คือผู้บุกเบิกของวงการที่กล้านำเอาเทคโนโลยีอันแสนทันสมัยมาศึกษา วิเคราะห์ และสร้างการตลาดจนผู้คนให้ความสนใจส่งผลให้แบรนด์โทรศัพท์มือถือและแบรนด์ไอทีจำนวนมากหันมาเป็นผู้เล่นในตลาดนี้แบบเต็มตัว

สมาร์ตโฟนแบรนด์ดังอย่าง Samsung, Motorola, Sony, LG, Nokia, Vivo, Oppo, Xiaomi, Realme, Wiko, Huawei, HTC และอื่น ๆ ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อมา กลายเป็นทางเลือกที่ดีของผู้บริโภคที่สามารถพิจารณาจากความคุ้มค่าทั้งเรื่องราคา ฟังก์ชัน แอปพลิเคชัน ให้สอดคล้องกับการใช้งานของตนเองมากที่สุด

ในอนาคตอันใกล้นี้ “สมาร์ตโฟน” ยังคงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นับวันก็ยิ่งพัฒนาไปข้างหน้าแบบไม่หยุดยั้ง ทั้งการเชื่อมต่อ แอปพลิเคชัน และอีกสารพัด ทุกคนในฐานะผู้ใช้งานเองต่างก็คาดหวังให้พวกเขาได้รับสิ่งดีที่สุด อย่างไรก็ตามเมื่อเทคโนโลยีเดินไปไกลแค่ไหนก็ย่อมมีความอันตรายตามมา จึงอย่าชะล่าใจมากเกินไปไม่เช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงแบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ต้องมีสติในการใช้อยู่ทุกช่วงเวลาเมื่อต้องใช้งานอยู่เสมอ